ㅤㅤ
ตัวอย่างผลการเปรียบเทียบผลตอบแทน SET, SET50, SET100 และ AOT ตั้งแต่ 1 ม.ค. – 6 มิ.ย. 68 เวลา 13.00 น. บนโปรแกรม efin StockPickUp
ㅤㅤ
ประเด็นหลักที่ต้องพิจารณา
แม้ AOT จะรายงานกำไรสุทธิไตรมาส 1/68 เพิ่มขึ้น 17% แตะ 5,344 ล้านบาท แต่กลับต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 5,700-5,800 ล้านบาท สาเหตุหลักมาจาก:
ㅤㅤ
3 ปัจจัยหลักที่กดดันผลประกอบการ
-
รายได้ Non-Aero หดตัวรุนแรง การขอคืนพื้นที่และยกเลิกดิวตี้ฟรีขาเข้า ส่งผลให้รายได้ Non-Aero ลดลงประมาณ 2,800-2,900 ล้านบาท ซึ่งเป็นรายได้หลักที่มี Margin สูงของ AOT
-
ต้นทุนพนักงานพุ่ง ค่าใช้จ่ายพนักงานเพิ่มขึ้น 16% จากการตั้งสำรองโบนัสและพนักงานบริษัทย่อยที่เพิ่มขึ้น ซึ่งกดดัน Operating Leverage ของบริษัท
-
ปัญหาลูกหนี้ค้างชำระ ยอดลูกหนี้ค้างจ่ายสูงขึ้น โดยเฉพาะจากผู้ประกอบการในสนามบินที่มีปัญหาสภาพคล่อง เช่น กลุ่มคิงเพาเวอร์ ที่ขอเลื่อนการชำระค่าตอบแทนขั้นต่ำออกไป 18 เดือน พร้อมจ่ายค่าปรับ 18% ต่อปี
ㅤㅤ
ความกังวลของตลาดเกี่ยวกับ :
รายได้ส่วนแบ่งผลประโยชน์ที่โตต่ำกว่าคาด
การเปิดประมูลผู้ให้บริการภาคพื้นและคาร์โก้รายที่ 3 ที่อาจไม่สามารถชดเชยรายได้ที่หายไปได้ทันที
ㅤㅤ
มองไตรมาส 2/68 : ช่วง High Season แต่ยังมีความท้าทาย
แม้แนวโน้มในไตรมาส 2/68 จะยังเป็นช่วง High Season โดยนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น 17.1% ที่ 4.8 ล้านคน แต่ยังต้องเผชิญกับ:
ฐานเปรียบเทียบสูง: ปีก่อนกำไรฐานสุดของปี ทำให้การเติบโตในไตรมาสนี้อาจไม่โดดเด่น
ผลกระทบต่อเนื่อง: การขอคืนพื้นที่และยกเลิกดิวตี้ฟรีขาเข้าที่จะรับผลกระทบเต็มไตรมาส
ㅤㅤ
สรุป
AOT ยังคงเป็นหุ้นที่มีความแข็งแกร่งในระยะยาว แต่ช่วงนี้กำลังเผชิญกับการปรับตัวหลังการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างรายได้ นักลงทุนควรติดตามการพัฒนาอย่างใกล้ชิดและรอจังหวะที่เหมาะสมในการลงทุน
ㅤㅤ
บทความนี้เป็นการวิเคราะห์เพื่อการศึกษาเท่านั้น ไม่ใช่คำแนะนำการลงทุน ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลและประเมินความเสี่ยงด้วยตนเองก่อนตัดสินใจลงทุน