📌 กลยุทธ์ลงทุน Bitcoin ด้วย MVRV Z-Score

กลยุทธ์ลงทุน Bitcoin ด้วย MVRV Z-Score : อ่านจังหวะตลาดอย่างมือโปร
การลงทุนใน Bitcoin ไม่ใช่แค่การ “ซื้อแล้วรอ” อีกต่อไป แต่เราสามารถใช้เครื่องมือวิเคราะห์เชิงลึกเพื่อช่วยตัดสินใจอย่างแม่นยำมากขึ้น หนึ่งในเครื่องมือยอดนิยมที่นักลงทุนสาย On-chain ใช้กันก็คือ MVRV Z-Score ซึ่งช่วยบอกได้ว่า Bitcoin ตอนนี้ “แพงเกินไป” หรือ “ถูกเกินไป” เมื่อเทียบกับมูลค่าจริงที่สะท้อนจากธุรกรรมบนเครือข่าย

:blue_book: MVRV Z-Score คืออะไร?

MVRV Z-Score คือดัชนีที่วัดความต่างระหว่าง:

  • :white_check_mark: มูลค่าตลาดหมุนเวียน (Market Cap)
  • :white_check_mark: มูลค่าที่รับรู้ได้ (Realized Cap)
    → ซึ่งเป็นการรวมมูลค่าครั้งสุดท้ายที่แต่ละเหรียญถูกเคลื่อนไหวจริงบน Blockchain

จากนั้นนำความต่างนี้ไปหารด้วย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานของ Market Cap เพื่อให้ได้ค่า Z-Score ที่เปรียบเทียบได้ในทุกช่วงเวลา

:chart_increasing: ทำไม Z-Score ถึงมีประโยชน์ในการลงทุน?

เพราะมันแสดงให้เห็นว่า ตลาดมีความร้อนแรง (Overheated) หรือ เย็นจัด (Undervalued) หรือไม่ โดยไม่อิงแค่ราคาเพียงอย่างเดียว

:white_check_mark: กลยุทธ์การลงทุนของผม:

จากการสังเกตย้อนหลังหลายรอบตลาด ผมใช้ MVRV Z-Score เป็น ตัวช่วยตัดสินใจเข้าซื้อ-ขาย ดังนี้:

:chart_decreasing: 1. เข้าซื้อเมื่อ Z-Score ต่ำกว่า 0

  • หมายถึงตลาดกำลัง “Undervalued” อย่างมีนัยสำคัญ
  • เป็นจุดที่มักเกิดในช่วงตลาดหมี (Bear Market) ปลายรอบ
  • กลยุทธ์: ทยอยสะสม BTC ในช่วงนี้ เพราะโอกาสขาลงมีจำกัด และโอกาสฟื้นตัวสูง

:chart_increasing: 2. พิจารณาขายเมื่อ Z-Score เกิน 6

  • หมายถึงตลาดเริ่ม “Overvalued” และอาจเกิดแรงขายตามมา
  • จากสถิติในอดีต เมื่อ Z-Score ทะลุ 6 มักเป็นจุดใกล้จบรอบขาขึ้น
  • กลยุทธ์: ทยอยขายทำกำไร บางส่วนเพื่อป้องกันขาดทุนจากการปรับฐานแรง

:rocket: อย่าลงทุนตามอารมณ์ ให้ลงมือด้วยข้อมูล

การใช้ MVRV Z-Score ร่วมกับข้อมูลอื่น เช่น Volume, Sentiment และปัจจัย Macro ช่วยให้คุณวางแผนการลงทุนอย่างมีระบบมากขึ้น ลดความเสี่ยงจากการ “ซื้อแพง-ขายถูก” และทำให้ตัดสินใจได้ด้วยความมั่นใจมากกว่าเดิม

แนวโน้ม Bitcoin หลัง Halving ครั้งที่ 4 และปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อราคา

:repeat_button: ประวัติศาสตร์ซ้ำรอย: แนวโน้มราคาหลัง Halving

  • โดยทั่วไป ราคาของ Bitcoin มักจะเข้าสู่ขาขึ้นก่อน Halving และเข้าสู่ Bull Market หลัง Halving
  • แต่ละรอบใช้เวลา ประมาณ 12–18 เดือน ในการไปถึงจุดสูงสุด (Peak)
  • เช่น หลัง Halving ครั้งแรก ราคาขึ้นจาก $1 ไป $12 / ครั้งที่สามในปี 2018 ก็เกิด Bull Market หลายวัน ก่อนเข้าสู่ช่วง Bear Market

:crossed_swords: ผลกระทบจากสงคราม: ฉุดราคาดิ่ง

  • สงครามอิหร่าน-อิสราเอลก่อน Halving ครั้งที่ 4 ทำให้ราคาร่วงแรงจาก $67,000 เหลือ $60,000
  • สวนทางกับเคยเกิดในสงครามรัสเซีย-ยูเครน ที่ทำให้คนหันมาใช้คริปโต
  • ปัจจุบัน Bitcoin ยัง ไม่ใช่สินทรัพย์ปลอดภัย (Safe Haven)

:chart_decreasing: แนวโน้มดอกเบี้ยและการตัดสินใจของ FED

  • ยังไม่มีสัญญาณว่าจะลดดอกเบี้ยในระยะสั้น เพราะยังจับตาเรื่องเงินเฟ้อ
  • การประชุม FOMC รอบถัดไปคือวันที่ 30 เม.ย. – 1 พ.ค. 2567

:date: ราคาหลัง Halving ครั้งที่ 4 (ข้อมูล ณ 27 เม.ย. 2567)

  • ราคา BTC: $62,909.79
  • เปลี่ยนแปลง 24 ชม.: -2.21%
  • ห่างจาก All-Time High: -14.67%
  • บ่งชี้ว่าราคายัง ไม่ฟื้นเต็มตัว และความผันผวนยังสูง

:eyes: มุมมองส่วนตัว:

จากข้อมูลและประวัติศาสตร์ที่ผ่านมา
BTC Bull Run รอบใหม่ อาจใกล้เข้ามาในไม่ช้านี้
แต่ก็ต้องระวังปัจจัยเศรษฐกิจโลกและสงครามที่ยังไม่จบ

1 Likes

ข้อมูลน่าจะ out ในบางจุด โดยเฉพาะมุมมองต่อดอกเบี้ย
ซึ่งเปลี่ยนแปลงเร็วรายวัน เนื่องจากระยะหลังมีทรัมป์มากดดันประธานเฟดวันเว้นวัน

ประกอบกับปีนี้ปี 2568 วันประชุมเฟด ยังเป็นการวิเคราะห์บนสมมุติฐานของการประชุมปี 2567


2 Likes

ขอบคุณครับ

ละเอียดมากคุณ StoryTeller