บริษัทคริปโต Circle Internet Group (CRCL) ประสบความสำเร็จอย่างโดดเด่นในการเข้าตลาดหุ้นนิวยอร์ก (NYSE) เมื่อวันที่ 5 มิถุนายน 2025 โดยราคาหุ้นเปิดที่ $69 และปิดที่ $83.23 เพิ่มขึ้นกว่า 168% จากราคาเสนอขายหุ้นครั้งแรก (IPO) ที่ $31 .(wsj.com)
ข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับ Circle และการเสนอขายหุ้น
- มูลค่าระดมทุน: Circle และผู้ถือหุ้นบางรายขายหุ้นรวม 34 ล้านหุ้นที่ราคา $31 ต่อหุ้น ระดมทุนได้กว่า $1 พันล้านดอลลาร์ .(wsj.com)
- ผลิตภัณฑ์หลัก: Circle เป็นผู้ออกเหรียญ USDC ซึ่งเป็นสเตเบิลคอยน์ที่มีมูลค่าตลาดประมาณ $61 พันล้านดอลลาร์ ถือเป็นเหรียญสเตเบิลคอยน์ที่ใหญ่เป็นอันดับสองของโลก .(wsj.com)
- รายได้หลัก: รายได้ส่วนใหญ่ของ Circle มาจากดอกเบี้ยที่ได้รับจากเงินสำรองที่ใช้หนุนหลัง USDC โดยในปี 2024 บริษัทมีรายได้จากดอกเบี้ยประมาณ $1.7 พันล้านดอลลาร์ .(wsj.com)
- การเติบโตของ USDC: ในไตรมาสแรกของปี 2025 ปริมาณ USDC ที่หมุนเวียนเพิ่มขึ้นเกือบสองเท่าเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ส่งผลให้รายได้จากดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น แม้อัตราผลตอบแทนจะลดลงก็ตาม .(wsj.com)
ปัจจัยที่ส่งผลต่อความสำเร็จของ IPO
- นโยบายที่เป็นมิตรต่อคริปโต: การสนับสนุนคริปโตเคอร์เรนซีจากรัฐบาลทรัมป์ รวมถึงการผลักดันกฎหมายที่เอื้อต่อสเตเบิลคอยน์ ช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุน .
- แนวโน้มตลาด IPO ที่ฟื้นตัว: แม้ตลาด IPO จะเผชิญกับความผันผวนในช่วงก่อนหน้า แต่การเปิดตัวของ Circle ช่วยกระตุ้นความเชื่อมั่นและความสนใจของนักลงทุนในตลาด IPO อีกครั้ง .(wsj.com)
แนวโน้มในอนาคต
- การกระจายรายได้: Circle กำลังขยายแหล่งรายได้ไปยังบริการธุรกรรมที่เกี่ยวข้องกับการไหลเวียนของสเตเบิลคอยน์ ซึ่งคิดเป็น 3.6% ของรายได้ทั้งหมดในไตรมาสแรกของปี 2025 เพิ่มขึ้นจาก 1.5% ในปีก่อนหน้า .(wsj.com)
- การลดต้นทุนการกระจาย: หาก USDC ถูกถือครองนอกแพลตฟอร์มของ Coinbase มากขึ้น Circle จะสามารถลดต้นทุนการกระจายและรักษารายได้จากเงินสำรองได้มากขึ้น .([wsj.com])
- ผลกระทบจากอัตราดอกเบี้ย: แม้อัตราดอกเบี้ยที่สูงจะเพิ่มรายได้จากเงินสำรอง แต่ในระยะยาว อัตราดอกเบี้ยที่ต่ำลงอาจส่งผลดีต่อการใช้งาน USDC ในการทำธุรกรรมและการลงทุนทางเลือกอื่นๆ .(wsj.com)
การเข้าตลาดหุ้นของ Circle ถือเป็นก้าวสำคัญที่สะท้อนถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่ออนาคตของสเตเบิลคอยน์และเทคโนโลยีการเงินดิจิทัล. อย่างไรก็ตาม ความสำเร็จในระยะยาวของบริษัทจะขึ้นอยู่กับความสามารถในการขยายการใช้งาน USDC และการปรับตัวต่อสภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจและกฎระเบียบที่เปลี่ยนแปลงไป.