Stablecoin คือเหรียญคริปโตที่ออกแบบมาให้ “มูลค่าคงที่” โดยผูกกับสินทรัพย์ที่มั่นคง เช่น ดอลลาร์สหรัฐ ยูโร เยน หรือทองคำ 
เพื่อแก้ปัญหาความผันผวนสูง ซึ่งเป็นจุดเด่นของคริปโตทั่วไปที่เราคุ้นชื่อกันดีอย่างเช่น บิตคอยน์, อีเธอเรียม, โซลานา ฯลฯ
ประเภทของ Stablecoin
Stablecoin แบ่งออกเป็น 3 ประเภทหลัก:
Fiat-backed stablecoin
มีสินทรัพย์ค้ำจริงในอัตรา 1:1 เช่น USDT (Tether), USDC (Circle), PYUSD (PayPal)
Crypto-backed stablecoin
ใช้คริปโตฯ ค้ำประกันในสัดส่วนที่สูงกว่ามูลค่าที่ออก เช่น DAI (MakerDAO) ซึ่งใช้ ETH เป็นหลักประกัน
Algorithmic stablecoin
ใช้อัลกอริทึมควบคุมปริมาณเหรียญเพื่อรักษาราคา เช่น TerraUSD (ก่อนล่ม) ซึ่งกลายเป็นกรณีศึกษาความเสี่ยงที่ทุกคนควรระวัง 
ประโยชน์ของ Stablecoin
Stablecoin เป็นหัวใจสำคัญของ DeFi ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถกู้ ยืม ฝาก หรือปล่อยกู้ได้โดยไม่ต้องกังวลเรื่องราคาผันผวนแบบคริปโตทั่วไป
ใช้โอนเงินข้ามประเทศได้เร็วและค่าธรรมเนียมต่ำกว่า ระบบ SWIFT แบบดั้งเดิม — โอนเสร็จภายในไม่กี่วินาทีถึงไม่กี่นาที
ช่วยป้องกันเงินเฟ้อในประเทศที่สกุลเงินไม่เสถียร เช่น เวเนซุเอลาและไนจีเรีย ประชาชนนิยมใช้ USDT หรือ USDC เพื่อรักษามูลค่าเงินของตน
อนาคตของ Stablecoin
Stablecoin มีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง และอาจกลายเป็น “กลไกหลัก” ในระบบการเงินดิจิทัล ทั้งช่วยเสถียรตลาด เชื่อมโยงการโอนเงินข้ามประเทศ และทำให้ DeFi ใช้ได้จริงในชีวิตประจำวัน 
อย่างไรก็ตาม ยังต้องจับตาความเสี่ยงด้านการกำกับดูแล ความโปร่งใส และความน่าเชื่อถือของผู้ออกเหรียญ หากจัดการได้ดี Stablecoin อาจเป็นสะพานสำคัญที่เชื่อมโลกคริปโทเคอร์เรนซีเข้ากับการใช้จ่ายในชีวิตจริงได้อย่างราบรื่น 