นักลงทุนไทยหลายคน คงมีความฝันอยากเป็นเจ้าของหุ้นระดับโลกอย่าง Apple, Tesla, หรือ Alibaba
แต่ในอดีต การจะก้าวไปถึงจุดนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลย..
เพราะต้องเผชิญกับความซับซ้อนของการเปิดบัญชีซื้อขายหุ้นต่างประเทศ, ความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน, ไปจนถึงค่าธรรมเนียมที่สูง
แต่ในวันนี้ กำแพงเหล่านั้นได้ทลายลงแล้ว ด้วยผลิตภัณฑ์ที่เรียกว่า DR (Depositary Receipt)
DR หรือ ตราสารแสดงสิทธิในหลักทรัพย์ต่างประเทศ คือเครื่องมือที่ทำให้นักลงทุนไทยสามารถซื้อขายหุ้นต่างประเทศได้ง่าย ๆ ผ่านตลาดหุ้นไทย ใช้บัญชีซื้อขายหุ้นที่มีอยู่ได้เลย เหมือนการซื้อหุ้นตัวหนึ่งในบ้านเรา
เมื่อการเข้าถึงไม่ใช่ปัญหา.. คำถามถัดมาก็คือ
“ในเมื่อตลาดหุ้นไทยมี DR ให้เลือกลงทุนหลายสิบตัว เราจะรู้ได้อย่างไรว่าควรจะเริ่มมองหาโอกาสจาก DR ตัวไหนก่อน ?”
ไปต่อกันยาวๆเลย
เมื่อข้อมูลมีมากเกินไป.. เราจะหา “สัญญาณ” ได้จากไหน ?
ลองนึกภาพตามนะครับ เวลาที่เราเปิดโปรแกรมเทรดหุ้นขึ้นมา เราจะเห็นรายชื่อ DR จำนวนมากเรียงกันอยู่เต็มหน้าจอ แต่ละตัวก็อ้างอิงกับหุ้นแม่ในต่างประเทศที่แตกต่างกันไป
การจะไล่ดูทีละตัวว่าวันนี้มีข่าวอะไร หรือกราฟเป็นอย่างไร คงเป็นเรื่องที่เสียเวลาและอาจทำให้เราพลาดโอกาสสำคัญไปได้
นี่คือจุดที่เครื่องมือวิเคราะห์เข้ามามีบทบาทสำคัญ
และหนึ่งในเครื่องมือที่นักลงทุนหลายคนใช้กันก็คือโปรแกรม efin StockPickUp ที่มี Template สำเร็จรูปสำหรับการสแกนหาหุ้นที่น่าสนใจ
และสำหรับ DR โดยเฉพาะ ก็มี Template ที่ชื่อว่า “@DR Scan”
Template นี้ถูกออกแบบมาเพื่อช่วยกรองข้อมูลมหาศาล ให้เหลือเพียง DR ไม่กี่ตัวที่กำลัง “คึกคัก” หรือมี “ความน่าสนใจเป็นพิเศษ” ในวันนั้น ๆ
แล้ว Template นี้ทำงานอย่างไร ?
ถ้าเราดูจากภาพหน้าจอ จะเห็นข้อมูลสำคัญที่ Template นี้ดึงมาแสดงผลให้เราทันที
- ปริมาณการซื้อขาย (Volume และ Value)
หัวใจสำคัญที่สุดอย่างหนึ่งของการลงทุน คือการดูว่ามี “เม็ดเงิน” ไหลเข้าไปในสินทรัพย์นั้น ๆ หรือไม่
คอลัมน์ AccVol (Accumulated Volume) และ AccVal (Accumulated Value) จะบอกเราว่า DR ตัวไหนกำลังถูกซื้อขายอย่างหนาแน่นในวันนั้น
ถ้า DR ตัวไหนมีมูลค่าการซื้อขายสูงกว่าตัวอื่น ๆ อย่างเห็นได้ชัด นั่นอาจเป็นสัญญาณแรกว่ามีนักลงทุนจำนวนมากกำลังให้ความสนใจ
-
การเคลื่อนไหวของราคา (%Chg)
แน่นอนว่าเราอยากรู้ว่า DR ตัวไหนกำลังปรับตัวขึ้นหรือลงในวันนั้น ซึ่งคอลัมน์%Chgก็จะช่วยให้เราเห็นภาพรวมได้อย่างรวดเร็ว -
“หัวใจสำคัญ” คือการเทียบ Volume กับค่าเฉลี่ย
สิ่งที่ทำให้ Template นี้ทรงพลัง ไม่ใช่แค่การดู Volume ของวันนี้ แต่คือการ “เปรียบเทียบ” กับอดีต
สังเกตคอลัมน์ SMA(V) ซึ่งย่อมาจาก Simple Moving Average of Volume หรือ “เส้นค่าเฉลี่ยของปริมาณการซื้อขาย”
Template นี้จะแสดงให้เราเห็นว่า ปริมาณการซื้อขายของวันนี้ (AccVol) เมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ย 10 วัน, 25 วัน หรือ 75 วันที่ผ่านมา เป็นอย่างไร
ยกตัวอย่างให้เห็นภาพ
สมมติว่าปกติแล้ว DR ของ AAPL80 (Apple) มีปริมาณการซื้อขายเฉลี่ยวันละ 1,000,000 หน่วย
แต่วันนี้ ผ่านไปแค่ครึ่งวันเช้า กลับมีปริมาณการซื้อขายปาเข้าไปแล้ว 3,000,000 หน่วย
Template @DR Scan จะทำให้เราเห็นความผิดปกตินี้ได้ทันที
การที่ปริมาณการซื้อขายพุ่งสูงขึ้นกว่าค่าเฉลี่ยมาก ๆ อาจเป็นสัญญาณว่า…
- มีข่าวสำคัญบางอย่างเกิดขึ้นกับหุ้นแม่ในต่างประเทศ
- มีแรงเก็งกำไรเข้ามาใน DR ตัวนั้นเป็นพิเศษ
- อาจเป็นจุดเริ่มต้นของแนวโน้มราคาใหม่ ๆ
แล้วนักลงทุนจะใช้ประโยชน์จาก Template นี้ได้อย่างไร?
แทนที่จะต้องนั่งไล่ดู DR ทุกตัวอย่างไร้จุดหมาย
นักลงทุนสามารถใช้ Template @DR Scan เป็น “จุดเริ่มต้น” ในการหาโอกาสได้
- เปิด Template @DR Scan ขึ้นมาในช่วงเปิดตลาด
- มองหา DR ที่มี
AccVal(มูลค่าการซื้อขาย) สูงติดอันดับต้น ๆ - มองหา DR ที่มี
AccVol(ปริมาณการซื้อขาย) สูงกว่าค่าเฉลี่ยSMA(V)อย่างมีนัยสำคัญ - คัดเลือก DR ที่เข้าเงื่อนไขเหล่านี้ ซึ่งอาจจะเหลือเพียง 2-3 ตัวที่น่าสนใจเป็นพิเศษในวันนั้น
เมื่อเราได้รายชื่อ DR ที่น่าสนใจมาแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือการทำการบ้านต่อในเชิงลึก เช่น
- ตรวจสอบข่าวสารของหุ้นแม่ (เช่น หุ้น Tesla, Alibaba, Google)
- วิเคราะห์กราฟเทคนิคของ DR ตัวนั้น เพื่อหาจังหวะเข้า-ออก
- ประเมินปัจจัยพื้นฐานของบริษัทแม่ในระยะยาว
จะเห็นได้ว่า Template นี้ไม่ได้บอกให้เรา “ซื้อ” หรือ “ขาย”
แต่ทำหน้าที่เป็น “ผู้ช่วยที่รู้จริง” ที่ช่วยคัดกรองหุ้นที่มีแนวโน้มจะน่าสนใจที่สุด ออกมาจากมหาสมุทรข้อมูล ทำให้เราประหยัดเวลา และสามารถโฟกัสกับการวิเคราะห์หุ้นที่ “ใช่” ได้อย่างตรงจุด
ในโลกที่การลงทุนต่างประเทศใกล้ตัวเรามากขึ้นทุกที
การเข้าถึงไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป แต่ความท้าทายกลับกลายเป็นการคัดเลือกและค้นหาโอกาส
การมีเครื่องมือที่ดี ก็เหมือนมีเข็มทิศนำทาง ช่วยให้เราไม่หลงทางในสนามการลงทุนที่กว้างใหญ่นี้ได้..
หมายเหตุ: บทความนี้เป็นเพียงการให้ความรู้เกี่ยวกับเครื่องมือในการวิเคราะห์เท่านั้น ไม่ได้มีเจตนาชี้นำการลงทุน การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลให้ครบถ้วนก่อนตัดสินใจลงทุนทุกครั้ง
Reference: ภาพหน้าจอโปรแกรม efin StockPickUp
