Strategy 101 : อย่าเอาไข่ทุกฟองใส่ไว้ในตะกร้าใบเดียว

**อย่าเอาไข่ทุกฟองใส่ไว้ในตะกร้าใบเดียว ** :egg::egg::egg:

กระจายความเสี่ยงในการลงทุน (Diversification) คือหนึ่งในหลักการสำคัญของการลงทุนที่นักลงทุนทั่วโลกยึดถือ เพราะเป็นการช่วยลดโอกาสในการขาดทุนหนักหากเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดกับสินทรัพย์ใดสินทรัพย์หนึ่ง

  • กลยุทธ์ที่ไม่เอาเงินทั้งหมดไปลงทุนในสินทรัพย์ประเภทเดียว หรือบริษัทเดียว
  • เลือกลงทุนในสินทรัพย์หรือกลุ่มอุตสาหกรรมที่แตกต่างกัน เช่น หุ้นหลายกลุ่ม, กองทุนต่างประเทศ, ตราสารหนี้, ทองคำ ฯลฯ
  • หากมีสินทรัพย์บางประเภทที่ผลตอบแทนไม่ดี หรือเกิดเหตุการณ์ผิดปกติเฉพาะเจาะจง เงินลงทุนส่วนอื่นยังคงมีโอกาสสร้างผลตอบแทน หรือหยุดความเสียหายโดยรวมของพอร์ตลงทุนได้

:small_blue_diamond:ตัวอย่างการกระจายความเสี่ยง

เช่น:

  • ลงทุนในหุ้น 5 ตัว คนละอุตสาหกรรม แทนที่จะใส่เงินทั้งหมดในหุ้นตัวเดียว
  • แบ่งเงินบางส่วนไปลงทุนในตราสารหนี้ พันธบัตร กองทุนอสังหา ทองคำ หรือสินทรัพย์ทางเลือก
  • ลงทุนในตลาดต่างประเทศบ้าง ไม่ใช่เฉพาะตลาดหุ้นไทย

:glowing_star: ประโยชน์ของการกระจายความเสี่ยง

  • ลดโอกาสขาดทุนหนักจากเหตุการณ์รุนแรงที่กระทบแค่บางกลุ่ม
  • เสถียรภาพของพอร์ตการลงทุนดีขึ้น ผลตอบแทนโดยรวมสม่ำเสมอ
  • ทำให้นักลงทุนมีโอกาสเจอ “โอกาสดี” ในกลุ่มหรือสินทรัพย์ที่เติบโตแทน

:warning: ข้อควรระวัง

  • กระจายออกไปมากเกินไป อาจทำให้ผลตอบแทนโดยรวมลดลง เพราะพอร์ตมีแต่ของเฉลี่ยค่า
  • ต้องเข้าใจและศึกษาสินทรัพย์ที่ลงทุนอย่างดี แม้จะแค่ “กระจาย” ก็ต้องรู้พื้นฐาน

สุดท้าย วิธีนี้ใช้ได้ดี ถ้ามี เงินมากพอ ในการกระจาย :sweat_smile:

3 Likes