หุ้นไทย VS ความขัดแย้งไทย-กัมพูชา กลุ่มไหนเสี่ยง-กลุ่มไหนรอด?
ความขัดแย้งทางการเมืองระหว่างไทย-กัมพูชาที่ปะทุขึ้นในกลางปี 2568 เริ่มส่งแรงสะเทือนต่อ “ความเชื่อมั่นของนักลงทุน” แม้ยังไม่มีมาตรการตอบโต้ทางเศรษฐกิจ แต่ผลกระทบเชิงจิตวิทยาเริ่มกดดันบริษัทจดทะเบียนไทย (บจ.) ที่มีธุรกิจในกัมพูชา
วิเคราะห์ผลกระทบตามกลุ่มอุตสาหกรรม:
กลุ่มเสี่ยงสูง:
CBG ยอดขายในกัมพูชาคิดเป็น 21% ของรายได้รวม และยังมีแผนสร้างโรงงานในปี 2569
→ เสี่ยงกระทบโดยตรงจากสถานการณ์ที่ไม่แน่นอน
กลุ่มเสี่ยงจำกัด:
OSP, BDMS, BCH, BGRIM, OR → รายได้จากกัมพูชาน้อย, ดำเนินธุรกิจตามปกติ
CPALL, CPAXT, BJC, MAJOR, SCCC, SCC, CPF → มีสาขา/ฐานผลิตในกัมพูชา แต่สัดส่วนรายได้ยังไม่มากนัก
กลุ่มไม่กระทบ:
กลุ่ม ICT, อาหาร (TU, ITC, GFPT) และ อสังหาริมทรัพย์ → ไม่มีการลงทุนหรือดำเนินงานในกัมพูชา
มุมมองโบรกเกอร์:
สถานการณ์นี้ยังอยู่ในระดับ “ผลกระทบทางจิตวิทยา” ไม่กระทบ ปัจจัยพื้นฐาน
ยังไม่พบสัญญาณจากรัฐบาลกัมพูชาที่เปลี่ยนนโยบายทางธุรกิจ
นักลงทุนควรจับตาความเคลื่อนไหวของนโยบายรัฐและการตอบโต้ทางเศรษฐกิจ หากสถานการณ์ยืดเยื้อ
บทสรุปสำหรับนักลงทุน:
ตอนนี้ยังไม่จำเป็นต้องปรับพอร์ตแบบตื่นตระหนก แต่อย่าเพิกเฉย! ติดตามข่าวให้ใกล้ชิด โดยเฉพาะกลุ่มที่มีสัดส่วนรายได้จากกัมพูชาสูง เช่น CBG ที่อาจได้รับผลกระทบมากที่สุด